Follow the Steps of Jesus

คนบางแสน

ในแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์

ก้าวที่ 25 : เบธเลเฮม

“ในครั้งนั้น พระจักรพรรดิออกัสตัส ได้ออกพระราช-กฤษฎีกาสั่งให้มีการสำรวจสำมะโนประชากรทั่วจักรวรรดิโรมัน การสำรวจสำมะโนประชากรครั้งแรกนี้ เกิดขึ้นเมื่อคีรินิอัสเป็นผู้ว่าราชการแคว้นซีเรีย
ทุกคนต่างไปลงทะเบียนในเมืองของตน
โยเซฟได้ออกเดินทางจากเมืองนาซาเร็ธในแคว้นกาลิลีไปยังเมืองของกษัตริย์ดาวิดชื่อเบธเลเฮม ในแคว้นยูเดีย เพราะโยเซฟสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์ของกษัตริย์ดาวิด
เขาไปลงทะเบียนพร้อมกับพระนางมารีย์ ภรรยาซึ่งกำลังมีครรภ์
ขณะที่ทั้งสองคนอยู่ที่นั่น ก็ถึงกำหนดเวลาที่พระนางมารีย์จะคลอดบุตร 7พระนางได้คลอดบุตรชายคนแรก เอาผ้าพันกายกุมารนั้น แล้ววางไว้ในรางหญ้า เนื่องจากไม่มีที่ในห้องพักแรมเลย”
(ลก. 2 : 1 – 7)

วันพุธที่ 18 เมษายน 2007 เวลา 08.00 น. เราออกจากโรงแรมที่พักในกรุงเยรูซาเล็ม เดินทางไปยังเบธเลเฮม ระยะทางประมาณ 8 ก.ม. ใช้เวลาพักเดียว

ผ่านกำแพงกรุงเยรูซาเล็ม

เบธเลเฮม เห็นแล้วเบธเลเฮม อยู่โน่นไง

เบธเลเฮม (Bethlehem) ตั้งอยู่ทางใต้ของกรุงเยรูซาเล็ม ห่างประมาณ 8 กิโลเมตร ไม่มีเมืองใดในโลกที่มีประวัติและสถานภาพสูงส่งเท่าเบธเลเฮม เนื่องจากเป็นที่เกิดของพระเยซูคริสต์ และยังเป็นเมืองของกษัตริย์ดาวิด กษัตริย์ดาวิดสมภพ เจริญวัย และเคยเลี้ยงแกะตามเนินเขาที่นี่ จนได้รับเรียกและเจิมเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล โดยประกาศกซามูแอล
นอกจากนี้ เบธเลเฮมยังเป็นฝังศพของนางราเคล ภรรยาของยากอบอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นสักการสถานสำคัญแห่งหนึ่งของชาวยิว

เบธเลเฮมคยได้ชื่อว่าเป็นชุมชนชาวปาเลสไตน์ที่นับถือศาสนาคริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง เป็นเวลากว่า 2000 ปี ที่ศาสนาคริสต์ลงรากอย่างมั่นคง ในปาเลสไตน์อย่างต่อเนื่องมาจากกลุ่มชนที่ติดตาม และรับคำสอนของพระเยซูคริสต์ ถึงแม้ว่าศาสนาอิสลามจะแผ่เข้ามาในช่วงศตวรรษที่ 7 คริสตชนในเมืองต่างๆ ของอิสราเอลจะถูกลบล้างไป แต่คริสตชนในเบธเลเฮมยังคงเป็นชนกลุ่มใหญ่เรื่อยมา จนกระทั่งถึงศตวรรษนี้ ทั้งนี้เนื่องมาจากการสู้รบกันระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ทำให้มีชาวปาเลสไตน์ที่นับถืออิสลาม อพยพเข้ามาตั้งแค้มป์ผู้ลี้ภัยในเบธเลเฮมจำนวนมาก อีกทั้งปัญหาความขัดแย้งรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ชาวปาเลสไตน์ที่เป็นคริสตชน อพยพย้ายไปอยู่ประเทศที่สามมากขึ้น ช่วงปี 2000 – 2003 คริสตชนจากเบธเลเฮมอพยพออกถึง 2,000 คนโดยประมาณ
ปัจจุบัน เบธเลเฮมมีพลเมืองประมาณ 40,000 คน คงมีคริสตชนเหลือประมาณไม่ถึง 30% จึงกลายเป็นคนกลุ่มน้อยในเบธเลเฮม

ณ ใจกลางเมืองเบธเลเฮม มีวัดพระกุมารบังเกิด (Church of Nativity) อยู่กล้กับสุเหล่า วัดนี้สร้างบนถ้ำซึ่งเชื่อกันมาตั้งแต่แรกเริ่มว่า เป็นสถานที่บังเกิดของพระเยซูคริสต์ และคงเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ และจัดว่าเป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งในบรรดาวัดทั้งหลาย คริสตชนนับล้านๆ คนจากทุกมุมโลกได้มาเยือนแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ และได้มาที่เบธเลเฮมนี้ทุกคน ถึงแม้จะมีเหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้นในดินแดนนี้ ทุกคนก็ต่างภาวนาขอสันติสงบสุขให้เกิดขึ้นในแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์นี้

เบธเลเฮมอยู่เขตแดนของชาวปาเลสไตน์ (อาหรับมุสลิม) ซึ่งไม่ถูกกับอิสราเอล ดังนั้น อิสราเอลจึงสร้างกำแพงสูงเท่าตึกสองชั้น ล้อมรอบอาณาเขตของปาเลสไตน์ไว้ เพื่อไม่ให้ออกมาก่อกวน

เนื่องจากเราออกมาแต่เช้า ไกด์แสนใจดี พาเราไปปล่อยลงที่ร้านขายของที่ระลึก ให้เราช้อปปิ้งกัน แต่ก็เช้าเกินไป ร้านยังไม่เปิด ต้องไปปลุกเจ้าของร้าน ให้เราช้อปปิ้งกัน เกือบ 2 ชั่วโมง