ก้าวที่
32 : เนินพระวิหาร

จุดเด่นของนครเยรูซาเล็มปัจจุบัน คือ กรุงเก่า ที่มีกำแพงสูงใหญ่ล้อมรอบ และภายในกำแพง มองเห็นแต่ไกล เป็นโดมสีทองของสุเหล่า สูงเด่นอยู่กลางลานกว้าง มีชื่อว่า โดมครอบก้อนหิน (Dome of the Rock) และที่ตรงนี้เคยเป็นพระวิหารศักดิ์สิทธิ์ของชาวยิว สร้างบนเนิน จึงเรียกที่ตรงนี้ว่าเป็น เนินพระวิหาร (The Temple Mount)

ชีวิตของพระเยซูเจ้าเกี่ยวข้องกับพระวิหารหลายครั้ง เมื่อพระองค์ประสูติได้ 40 วัน นักบุญโยเซฟและแม่พระ ก็ได้นำพระองค์มาถวายตัวในพระวิหาร เมื่อตอนอายุ 12 ปี พระองค์ได้มาฉลองเทศกาลปัสกาพร้อมกับครอบครัว และพลัดหลงกัน สามวันต่อมา จึงได้พบพระองค์ในพระวิหารท่ามกลางพวกนักปราชญ์

ครั้งสำคัญที่บันทึกไว้ คราวที่พระองค์เสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มบนหลังลา พระองค์ได้เข้ามาในพระวิหาร และได้ขับไล่พวกที่มาค้าขายในพระวิหาร และในคราวเดียวกันนี้ พระองค์ร้องไห้ และทำนายว่าพระวิหารจะถูกทำลาย จนไม่มีหินสองก้อนซ้อนกัน

สืบเนื่องมาจากเรื่องราวในพระคัมภีร์ ณ เนินพระวิหารตรงนี้ เชื่อกันว่า เป็นภูเขาชื่อโมรียาห์ ที่อับราฮัมขึ้นไปเพื่อถวายอิสอัค บุตรชายเป็นเครื่องบูชาแด่พระเจ้า (ปฐก 22:122) ต่อมา กษัตริย์ดาวิดได้ซื้อที่ตรงนี้และสร้างแท่นบูชาถวายเครื่องบูชาแด่พระเจ้า และสัญญาว่าจะสร้างพระวิหารถวาย แต่ผู้ที่ได้รับเกียรติสร้างคือ กษัตริย์โซโลมอน พระโอรส พระวิหารที่กษัตริย์โซโลมอนทรงสร้างนั้นใหญ่โตสวยงามมาก จัดว่าเป็นสิ่งอัศจรรย์หนึ่งในเจ็ดของโลก แต่ถูกพวกบาบิโลนทำลายลงในปี 587 ก่อน ค.ศ.

(หุ่นจำลองพระวิหารหลังที่สอง)
หลังจากชาวยิวถูกปล่อยตัวจากจากการถูกจับเป็นเชลยไปยังกรุงบาบิโลนแล้ว จึงกลับมาสร้างพระวิหารหลังที่สอง แต่เล็กพระวิหารหลังแรก ต่อมาในสมัยกษัตริย์เฮรอด ได้มาสร้างใหม่ให้ใหญ่และสวยงามเทียบเท่าพระวิหารหลังแรก ในช่วง 20 ปี ก่อน ค.ศ. ซึ่งเป็นพระวิหารที่พระเยซูเจ้ารู้จัก

จนถึงปี ค.ศ. 70 พระวิหารก็ถูกทำลายลงโดยกองทัพโรมันของจักรพรรดิตีตัส เหลือแต่เพียงกำแพงที่สร้างล้อมรอบตัวพระวิหาร

ใน ค.ศ. 636 ชาวมุสลิอาหรับมเข้ามายึดครองกรุงเยรูซาเล็ม และได้สร้างสุเหร่าที่ตรงซากพระวิหาร กาหลิบโอมาร์อ้างว่า ประกาศกมะหะหมัดเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ที่นี่

ในปี ค.ศ. 1099 เมื่อพวกครูเสดเข้ามายึดครองกรุงเยรูซาเล็ม ก็ได้ดัดแปลงเป็นวิหารของคริสต์ แต่อยู่ไม่นาน ปี ค.ศ. 1187 พวกครูเสดพ่ายแพ้ กางเขนบนยอดโดมก็ถูกเปลี่ยนเป็นพระจันทร์เสี้ยว จนถึงทุกวันนี้

สุเหร่าที่เห็นปัจจุบัน เป็นสุเหร่าที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของชาวมุสลิม ตัวสุเหร่ามีรูปทรงเป็นแปดเหลี่ยม แต่ละด้านกว้าง 20 เมตร มีโดมตรงกลาง ยอดโดมสูงจากพื้นดิน 55 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางของโดม 24 เมตร โดมทำด้วยแผ่นอลูมิเนียมชุบทองคำ ทำให้สะท้อนแสงอาทิตย์อย่างสวยงาม

ภายในประดับด้วยหินอ่อนชนิดดีเลิศ และกระเบื้องเคลือบจากเปอร์เซีย

พื้นปูพรมอย่างดี

ใต้หลังคาโดมตกแต่งอย่างประณีตบรรจง

กระจกสีหน้าต่างและรูปโมเสคที่กำแพง ล้วนวิจิตรพิสดารอย่างยิ่ง

ใต้โดมมีก้อนหินของภูเขาโมรียาห์ ยาว 13 เมตร กว้าง 10 เมตร สูง 2 เมตร มีความศักดิ์สิทธิ์เทียบเท่าหินกะบะที่นครเมกกะ และหลุมศพของประกาศกมูฮัมเหม็ด ที่นครเมดินา อาคารโดมหลังนี้มีชื่อเรียกปัจจุบันว่า โดมครอบก้อนหิน (Dome of the Rock)

ทางทิศใต้ของลานกว้างเนินพระวิหาร ยังมีสุเหร่าใหญ่อีกหลังหนื่ง

มีโดมสีดำสังเกตเห็นได้ง่าย ชื่อ สุเหล่าเอล อัคซา (El Aqsa) ใช้เพื่อสวดร่วมกัน

สุเหล่าเอล อัคซา

Dome of the Rock
|