ก้าวที่
52 : เส้นทางมหาทรมาน สถานที่ 3 - 6

กลับออกมาจากอารามฟรังซิสกัน ตรงนี้เป็นจุดเริ่มต้นของถนนชื่อ วีอา โดโลโรซา (Via Dolorosa)

เดินต่อไปทางทิศตะวันตกอีนิดเดียวก็ถึงสี่แยก หัวมุมถนนเป็น คอนแวนต์ซิสเตอร์แห่งศิโยน

เข้าไปข้างใน เป็นลานมีแผ่นหินปูพื้นเก่าแก่ เป็นลานที่ปีลาโตออกมาพบประชาชน
ลานนี้เรียกว่า ลิโธสตรอโตส (Lithostrotos)
12ตั้งแต่เวลานั้น ปิลาตพยายามหาทางปล่อยพระองค์ ชาวยิวร้องตะโกนว่า "ถ้าท่านปล่อยผู้นี้ไป ท่านก็ไม่เป็นมิตรของพระจักรพรรดิ ผู้ใดตั้งตนเป็นกษัตริย์ ก็เป็นศัตรูของพระจักรพรรดิ"
13เมื่อปิลาตได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ ได้สั่งให้นำพระเยซูเจ้าออกมาข้างนอก ให้พระองค์นั่งบนบัลลังก์พิพากษาในสถานที่ที่เรียกว่า ลานศิลา (Lithostrotos) ภาษาฮีบรูว่า กับบาธา (Gabbathaa)
14วันนั้นเป็นวันเตรียมฉลองปัสกา เวลาประมาณเที่ยงวัน ปิลาต กล่าวแก่ชาวยิวว่า "นี่แหละกษัตริย์ของท่านทั้งหลาย"
(ยน 19:12-14)

ออกจากคอนแวนต์ จะผ่านซุ้มประตูโค้งชื่อ Ecce Homo สร้างคร่อมถนนเข้าไปในคอนแวนต์
เพื่อแสดงถึงคำพูดของปีลาโตที่นำพระเยซูเจ้ามาให้คนยิวดู แล้วพูดว่า นี่คือชายคนนั้น (Ecce Homo)
3เข้ามาหาพระองค์และกล่าวว่า "กษัตริย์ของชาวยิว! ขอทรงพระเจริญ" แล้วตบพระพักตร์พระองค์
4ปิลาตออกมาข้างนอกอีกครั้งหนึ่ง กล่าวกับคนเหล่านั้นว่า "ดูเถิด เรานำชายผู้นี้ออกมาให้ท่านรู้ว่าเราไม่พบว่าเขามีความผิดประการใด"
5แล้วพระเยซูเจ้าเสด็จออกมาข้างนอก ทรงมงกุฎหนามและเสื้อคลุมสีแดง ปิลาตกล่าวกับเขาว่า "นี่แหละ คนคนนั้น"
(ยน 19:3-5)

เดินต่อถึงสามแยก ตรงหัวมุมถนนวีอา โดโลโรซา ตัดกับถนนเอล-หวัด (El Wad) เป็น
สถานที่ 3 พระเยซูเจ้าทรงหกล้มครั้งที่ 1
(คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขยาย)

มีวัดของชาวโปลิช

ผู้แสวงบุญรวมอยู่หน้าวัด

รั้วเป็นเสาหินใหญ่ บนประตูเข้ามีรูปแกะสลักพระเยซูเจ้าล้ม

รูปแกะสลักบนประตูเข้า

ภายในวัด

จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปตามถนนเอล-หวัด เพียงเล็กน้อย เป็น
สถานที่ 4 พระเยซูเจ้าพบปะพระมารดา

ประตูทางเข้าวัดอาร์เมเนียน ชื่อวัดแม่พระสปัสซัม (Our Lady of Spasm Church)
ติดกันก็เป็นร้านขายเสื้อผ้า

เดินอีกนิดถึงสามแยก เลี้ยวขวาเข้าถนน Via Dolorosa อีกครั้ง ที่หัวมุม เป็น
สถานที่ 5 ซีมอนชาวไซรีนช่วยพระเยซูเจ้าแบกกางเขน (มธ. 27 : 32; มก. 15 : 21; ลก. 23 : 26)

ประตูเข้าวัดน้อยของคณะฟรังซิสกัน

คำจารึกบนหินเหนือประตูเข้า

ภายในวัดมีภาพแกะสลักน่าสนใจที่นี่
26ขณะที่บรรดาทหารกำลังนำพระองค์ออกไป ได้เกณฑ์ชายคนหนึ่งชื่อซีโมนชาวไซรีนซึ่งกำลังกลับจากชนบท วาง ไม้กางเขนบนบ่าของเขาให้แบกตามพระเยซูเจ้า
(ลก 23:26)

จากนี้ไปถนนเริ่มแคบและชันขึ้นเนินเขา

เดินมาได้ครึ่งทางของถนนก็จะเป็น

สถานที่ 6 นางเวรอนีกาเข้ามาเช็ดพระพักตร์พระเยซูเจ้า
มีเครื่องหมายทำไว้บนประตูไม้ของวัดเมลไคต์ เป็นนิกายกรีกคาทอลิก

ใต้แผ่นโลหะกลมบอกสถานที่ VI (เลข 6โรมัน) มีเสาหินเก่าแก่ สลักข้อความเป็นภาษาลาตินว่า
สถานที่ 6 นางเวรอนีกาเข้ามาเช็ดพระพักตร์พระเยซูเจ้า

ที่จริงไม่มีบันทึกในในพระวรสารเล่มใดเกี่ยวกับหญิงชื่อเวโรนีกา แต่ปรากฏว่ามีผ้าผืนหนึ่งที่มีรูปหน้าพระเยซูเจ้า ซึ่งเล่าต่อกันมาว่าเป็นผืนผ้าที่เป็นรอยเลือด เป็นหน้าพระเยซูเจ้า ผ้าผืนนี้เก็บรักษาไว้ที่กรุงโรม และชื่อเวรอนีกา (Veronica) น่าจะ |