ก้าวที่
55 : ภายในวัดพระคูหาศักดิ์สิทธิ์

วัดพระคูหาศักดิ์สิทธิ์ (Church of the Holy Sspulchre) ทางออร์ธอด็อกซ์เรียกว่า วัดคืนพระชนม์ชีพ (Church of the Resurrection) ภาษาอาหรับเรียกว่า Al-Qeyamah ที่แปลว่า การกลับคืนชีพ เป็นวัดที่สร้างครอบเนินกลโกธาหรือเขากัลวารีโอ และหลุมฝังศพของพระเยซูเจ้า ถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง

ตัวอาคารวัดพระคูหาศักดิ์สิทธิ์นี้ มีความซับซ้อนมาก ภายในอาคารมีวัดเล็กวัดใหญ่หลายวัด แบ่งส่วนการครอบครองโดย คริสตชนหลายนิกาย ทั้งกรีกออร์ธอด็อกซ์ อาร์เมเนียนอาโปสโตลิก โรมันคาทอลิก เอธิโอเปียนออร์ธอด็อกซ์ ซีเรียนออร์ธอด็อกซ์ และคอปติกส์ออร์ธอด็อกซ์

สิทธิการครอบครองเป็ไปตามข้อตกลงร่วมกันคั้งสมัยของศุลต่านอ๊อตโตมานแห่งตุรกี เมื่อราว 200 กว่าปีมาแล้ว กำหนดให้แต่ละกลุ่มประกอบพิธีกรรมและสวดได้ตามเวลาที่กำหนด ที่หมุนเวียนกันไปทั้งวันอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา

และที่น่าพิศวงกว่านั้คือ กุญแจพระวิหารอยู่ในการครอบครองของครอบครัวมุสลิมสำคัญชาวปาเลสไตน์ครอบครัวหนึ่ง ประตูพระวิหารจะเปิดตอนเช้าทุกวันเวลา 7.00 น. แะปิดเวลาสองทุ่ม เวลาดังกล่าวจะมีพระสงฆ์นิกายทั้ง กรีกออร์ธอด็อกซ์ อาร์เมเนียนอาโปสโตลิก และโรมันคาทอลิก ประกอบพิธีกรรมร่วมกัน

เราเข้าไปข้างในกันเลย นี่เป็นแผนผัง ดูตามหมายเลขกำกับ (คลิกที่รูปดูภาพขยาย)

จากลานหน้าวัด พอเข้าประตูมา ก็เป็นห้องแรกทางทิศใต้ของวัด ทางซ้ายมือ เป็น (2) หน่ายรักษาความปลอดภัยมุสลิม ข้างหน้าเป็น (3) แผ่นหินชะโลมพระศพ (Stone of Anointment) ที่นำพระศพพระเยซูเจ้ามาวาง เพื่อชะโลมพระศพด้วยเครื่องหอม หลังจากนำพระศพลงจากกางเขน

ถ้าลงไปชั้นล่างถัดมาทางขวา (4) เป็นทางลงไป วัดอาดัม จะเห็นหินภูเขาที่มีรอยแยก ที่เกิดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงที่พระเยซูเจ้าขณะกำลังสิ้นพระชนม์ หินที่อยู่ข้างใต้ลงไป เป็นหินแท้ๆ ของเนินกลโกธา (มธ. 27 : 51)

ทางขวามือติดขอบประตู เป็นบันไดขึ้นไปชั้นบนเป็นยอดเนินกัลวารีโอ (5) วัดแรกเป็นของนิกายคาทอลิกนี่ เป็น สถานที่ 11 ที่เขาเอาพระเยซูเจ้าตอกตะปูตรึงกับไม้กางเขน และ (6-7) วัดที่สอง เป็นของนิกายกรีกออร์ธอร์ด๊อกซ์ เป็น สถานที่ 12 พระเยซูเจ้าสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน และ สถานที่ 13 นำพระศพลงจากไม้กางเขน

ทางขวามือของแผ่นหินชะโลมพระศพ (9) เป็นสักการสถานของนิกายอาร์เมเนียน หรือวัดน้อยแผ่นหินสตรีสามคน คือ มารีย์ มักดาลา มารีย์ มารดาของยากอบแ และนางสะโลเม (มก 16:1)

ทางขวามือของแผ่นหินชะโลมพระศพ ตรงจุดศูนย์กลางวัด ณ ใต้โดมใหญ่ (11) เป็นวัดน้อยพระคูหาศักดิ์สิทธิ์

เป็นตำแหน่งที่เชื่อว่าเป็นคูหาฝังศพของพระเยซูเจ้า และเป็นพระเยซูเจ้ากลับคืนพระชนม์ชีพ
เลยโดมใหญ่ไปทางทิศเหนือ (15) เป็นวัดนักบุญมารีย์ มัดดาเลนา ของคาทอลิก

ออมมาทางทิศตะวันออกของโดมใหญ่ (8) เป็นโถงใหญ่ คือ อาสนวิหารของกรีกออร์ธอด็อกซ์

มีธรรมาสน์ของพระอัยกาแห่งเยรูซาเลม และธรรมาสน์ของพระอัยกาแห่งอันติโอ๊กสองฝั่ง

อ้อมไปหลังอาสนวิหารของกรีกออร์ธอด็อกซ์ ทางทิศตะวันออก (20) เป็นวัดน้อยการแบ่งเสื้อของพระเยซูเจ้า
ถัดมาทางขวามือนิดเดียว (21) เป็นบันได 29 ขั้น

นำลงไปในถ้ำที่เป็นวัดนักบุญเฮเลนา พระราชมารดาของจักรพรรดิคอนสแตนติน ผู้ค้นพบไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ ในปี ค.ศ.326 เป็นวัดที่สวยงามมากของนิกายอาร์เมเนียน โดยเฉพาะพื้นโมเสคสวยงามมาก ขนาดใหญ่

ทางทิศใต้ของวัด มีภาพวาดขนาดใหญ่แสดงเรื่องราวการค้นพบไม้กางเขน

ทางทิศตะวันออก มีบันได 19 ขั้นนำลงไปยังห้องใต้ดินที่เป็นถ้ำที่นักบุญเฮเลนา พบชิ้นส่วนไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ (อยู่ในตู้ทางขวามือ) หลังแท่นเป็นรูปปั้นของนักบุญเฮเลนา กำลังถือไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์

นอกจากนี้ก็ยังมีวัดน้อยและจุดสำคัญอีกหลายจุด ดูได้จากแผนผังที่แนบมานี้ (คลิกที่รูปดูภาพขยาย) |