คนบางแสน

 

ในแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์


ก้าวที่ 16 : อัศจรรย์ครั้งแรกที่หมู่บ้านคานา

วันจันทร์ที่ 16 เมษายน 2007 หลังอาหารกลางวัน เรานั่งรถโค้ชจากยาร์เดนิท ริมแม่น้ำจอร์แดน วกขึ้นไปยังเมืองคานา


คานาตั้งอยู่บนถนนที่อยู่ระหว่างนาซาแร็ธ และทิเบเรียส อยู่ห่างจากนาซาแร็ธ 6 ก.ม. ปัจจุบันมีหมู่บ้านคนอาหรับสร้างทับบนซากของหมู่บ้านคานาโบราณ กลางหมู่บ้านมีน้ำพุที่เคยเป็นแหล่งน้ำจืดของคนในหมู่บ้าน


แยกจากถนนสายนาซาแร็ธไปทิเบเรียส มีถนนสายหนึ่งตัดผ่านหมู่บ้าน เราลงจากรถแล้วค่อยๆ เดินไต่สูงไปบนเนิน สองข้างทางเป็นร้านค้าของที่ระลึก และร้านขายไวน์
ที่จริงเมื่อวานนี้ คณะแสวงบุญของเราไปถึงเมืองคานาแล้ว แต่เป็นวันอาทิตย์ตอนบ่าย  พอไปที่วัดคานา วัดก็ปิดแล้ว ไกด์ท้องถิ่นน่าจะรู้ดี เราจึงต้องกลับ แล้วจึงค่อยมาใหม่วันจันทร์วันนี้


บนเนินมีวัดใหญ่หลังหนึ่งชื่อวัดแห่งคานา หรือวัดสำหรับแต่งงาน สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ที่ นักบุญยอห์นเล่าไว้ในพระวรสารว่า พระเยซูเจ้าทรงทำอัศจรรย์ครั้งแรกในงานมงคลสมรส ที่หมู่บ้านคานา แคว้นคาลิลี (ยน 2:1)

สามวันต่อมา มีงานสมรสที่หมู่บ้านคานาในแคว้นกาลิลี พระมารดาของพระเยซูเจ้าก็อยู่ในงานนั้น พระเยซูเจ้าทรงได้รับเชิญพร้อมกับบรรดาศิษย์มาในงานนั้นด้วย

เมื่อเหล้าองุ่นหมด พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงมาทูลพระองค์ว่า 'เขาไม่มีเหล้าองุ่นแล้ว' พระเยซูเจ้าตรัสว่า 'คุณแม่ครับ คุณแม่ต้องการอะไรจากลูก? เวลาของลูกยังมาไม่ถึง' พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงกล่าวแก่บรรดาผู้รับใช้ว่า 'เขาบอกให้ท่านทำอะไร ก็จงทำเถิด'

ที่นั่นมีโอ่งหินตั้งอยู่หกใบ เพื่อใช้ชำระตามธรรมเนียมของชาวยิว แต่ละใบจุน้ำได้ประมาณหนึ่งร้อยลิตร พระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาผู้รับใช้ว่า 'จงตักน้ำใส่โอ่งให้เต็ม' เขาก็ตักน้ำใส่จนเต็มถึงขอบ แล้วพระองค์ทรงสั่งเขาอีกว่า 'จงตักไปให้ผู้จัดงานเลี้ยงเถิด' เขาก็ตักไปให้

ผู้จัดงานเลี้ยงได้ชิมน้ำที่เปลี่ยนเป็นเหล้าองุ่นแล้ว ไม่ทราบว่าเหล้านี้มาจากไหน   แต่ผู้รับใช้ที่ตักน้ำทราบดี

ผู้จัดงานเลี้ยงจึงเรียกเจ้าบ่าวมา กล่าวว่า 'ใครๆเขาเอาเหล้าองุ่นอย่างดีมาตั้งก่อน เมื่อบรรดาแขกดื่มมากแล้ว จึงเอาเหล้าองุ่นอย่างรองมาตั้ง แต่ท่านเก็บเหล้าอย่างดีไว้จนถึงบัดนี้'

  (ยน 2:1–11)


ระหว่างทาง ก่อนจะถึงวัดคานา ผ่านวัดเล็กๆ ชื่อวัดนาธานาแอล คานาเป็นบ้านเกิดของนาธานาแอล อัครสาวกคนหนึ่งของพระเยซูเจ้า


วัดคาทอลิกคานาห่งการแต่งงานตั้งอยู่บนเนิน


อยู่ในความดูแลของนักบวชหญิงคณะฟรังซิสกัน


ภายในวัด ตรงกลางมีโดมช่วยให้แสงสว่างได้ดี


หลังพระแท่น มีภาพวาดเกี่ยวกับงานเลี้ยงสมรส และมีตุ่มหิน 6 ใบที่พระเยซูเจ้าทรงเปลี่ยนน้ำให้เป็นเหล้าองุ่น


ใกล้เข้าไปอีกนิด


มีบันไดนำลงไปยังชั้นล่าง หรือชั้นใต้ดิน มีช่องขุดลึกลงไปใต้ดิน ให้เห็นว่าวัดหลังปัจจุบันนี้ สร้างทับบนวัดเก่าโบราณ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 หรือสมัยครูเสด


มีวัดน้อยให้ผู้แสวงบุญมารือฟื้นคำมั่สัญญาการแต่งงาน


วัดยังเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงสิ่งของที่ขุดพบ ตั้งแดง
โอ่งหินใบใหญ่ เลยมีคนพยายามบอกว่า นี่เป็นโอ่งหนึ่งใน 6 ใบที่นักบุญยอห์นเล่าไว้


ยังมีครกหินใหญ่ อยู่ในตู้กระจกปิดด้านบน แต่มีช่องเล็กใต้ฝา เอามือสอดไม่ได้
ใครอยากได้อะไร ก็เขียนคำอธิษฐาน แล้วใส่ลงไปในครกให้ได้ แล้วก็จะได้สมหวัง มีหลายคนพยายามหลายหน ไม่รู้สำเร็จหรือเปล่า ต้องถามคุณพ่อโจ้


ออกจากวัดคาทอลิก ใกล้ๆ กันมีวัดนิกายกรีกออร์ธอร์ดอกซ์


เราช่วยกันเจรจรอยู่นาน กว่าที่หลวงพ่อท่าทางเอาเรื่องจะยอมเปิดประตูรั้วให้


สวยงามมาก


นี่แค่ภาพวาดนอกวัด วัดนี้ชื่อวัดแห่งคานา


และยังยอมพาเราเเข้าไปชมภายในวัดด้วย


เรื่องของวัดนิกายกรีกออร์ธอร์ดอกซ์ ต้องยกนิ้วให้เรื่องของภาพวาดที่เราเรียกว่า Icon เขาไม่มีรูปปั้นเลย


ภาพแม่พระ มีโอ่งหินของเก่าด้วย


กระจกสีสรรค์สวยงาม แล้วก็นิยมแขวนโคมคล้ายๆ เต้ากำยาน เรายังจะได้เห็นอีกเยอะ


ขากลับ เราค่อยๆ เดินดูร้านของที่ระลึกที่เปิดตลอดถนน


ไกด์ก็มาไล่ต้อนให้เราเร่งเดิน ที่สุดเราก็มาจนมุมที่ร้านขายเหล้าองุ่นร้านนี้


ของที่ระลึกมีให้เลือก


เชิญค่ะ เชิญชิมไวน์คานา


ที่สุด หลังจากได้ชิมไวน์คานากันคนละหลายจอก เราก็ได้ไวน์ของพระเยซูกันมาคนละหลายไห ก็คงจะกลับถึงเมืองไทยนะ

บันทึกส่วนตัวของคุณแดง ตอนที่ 16


Back to Mainpage