ก้าวที่
38 : วัดนักบุญเปโตรที่ไก่ขัน
พวกเขานำพระเยซูมาที่บ้านมหาสมณะ ......... ( มก 14 : 5363)
(ภาพโมเสคภายในวัด)
ระหว่างที่มีการไต่สวนพระเยซูเจ้า เปโตรก็มานั่งอยู่ที่ลานนอกบ้านด้วย และที่นี่เองที่เปโตรปฏิเสธว่าไม่เคยรู้จักพระเยซูเจ้า ถึง 3 ครั้ง ทันใดนั้นไก่ก็ขันขึ้น ทั้งนี้เป็นไปตามที่พระเยซูเจ้าทำนายไว้ล่วงหน้าแล้ว
(รูปปั้นที่ลานข้างวัด)
จากการบอกเล่าโดยนักบุญมารโกข้างต้น คือที่มาของ วัดนักบุญเปโตรที่ไก่ขัน ( Church of St. Peter in Callicantu)
วัดหลังแรกสร้างในยุคไบเซนไทน์ ค.ศ. 457 ถูกทำลายโดยอาหรับในปี 1010 พวกครูเสดสร้างขึ้นใหม่ในปี 1102 แล้วก็ถูกพวกเติร์กทำลายลงอีกในปี 1320
วัดหลังปัจจุบัน สร้างโดยคณะนักบวชออกัสตินแห่งแม่พระยกขึ้นสวรรค์ ในปี 1931
ณ ตรงจุดนี้ที่เคยเป็นวัดและอารามสมัยไบเซนไทน์ หรือวังของมหาสมณะไกยาฟาส
บนยอดกางเขนมีรูปไก่
ตั้งอยู่เชิงลาดทางทิศตะวันออกของภูเขาศิโยน ทางเข้าอยู่สูงกว่าระดับวัด
ที่หน้ามุขวัด มีภาพโมเสคพระเยซูเจ้าถูกจำจอง
อยู่ต่อหน้าไกยาฟาส
ภายในวัดเป็นทรงกลม มีพระแท่นกลางและพระแท่นเล็ก
พระแท่นกลาง
หลังพระแท่นก็มีภาพโมเสค พระเยซูเจ้ากำลังทนทุกข์
ภาพโมเสค หลังพระแท่นเล็ก ซ้ายพระเยซูหันมามองนักบุญเปโตร ขวามอบเอกสิทธิ์แก่นักบุญเปโตร
ภายในวัด ส่วนหนึ่งตัดเจาะเข้าไปในภูเขา
จากการขุดค้นใต้วัด พบซากสิ่งก่อสร้าง อายุสมัยเดียวกันกับพระเยซูเจ้า
มีทางลงไปยังห้องใต้ดิน
เชื่อกันว่าน่าจะเป็นบ้านของมหาสมณะคายาฟาส
คณะแสวงบุญก็ได้มีโอกาสเดินลงไปดู
ห้องใต้ดินซึ่งน่าจะเป็นคุก และห้องพักของยาม
เชื่อว่าพระเยซูเจ้าคงต้องถูกจองจำที่นี่ตลอดคืนหลังจากถูกจับมา
"จิตใจของข้าพระองค์ลำบากเต็มที . . . พรองค์ทรงใส่ข้าพระองค์ไว้ในแดนที่มืดและลึก . . .
พระพิโรธของพระองค์หนักอยู่บนข้าพระองค์ . . . ข้าพระองค์ถูกขัง ข้าพระองค์ออกไปไม่ได้
. . . ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ร้องทูลต่อพระองค์ " (บทเพลงสดุดีที่ 88)
ถัดจากวัดไปทางทิศเหนือ มีการขุดพบบันไดหินลาดไปตามเนินเขา มุ่งไปสู่กรุงเก่าและลำห้วยขีดโรน และไปยังสวนเกทเสมนี
จึงเชื่อว่าพระเยซูเจ้าใช้เส้นทางนี้จากห้องอาหารมื้อสุดท้าย ไปยังสวนเกทเสมนี
และจากสวนเกทเสมนี ก็ถูกนำตัวมายังบ้านคายาฟาสโดยใช้เส้นทางนี้เช่นกัน
(ภาพที่กำแพงวัด)
เชิญพบคุณแดง
ตอนที่ 38 |