คำกล่าวรายงานของคุณพ่อเจ้าวัด
ในพิธีวางศิลาฤกษ์วัดบางแสน
13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2000
~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~
กราบเรียนพระคุณเจ้า
พระสงฆ์ นักบวชชาย-หญิง และพี่น้องผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน
ปีคริสตศักราช
2000 นับเป็นปีแห่งความปลื้มปีติ สำหรับกลุ่มคริสตชนวัดแม่พระประจักษ์ที่ลูร์ด
บางแสน อย่างแท้จริง
ประการแรก เราได้มีโอกาสร่วมใจกับคริสตชนทั่วโลก เฉลิมฉลองปีศักดิ์สิทธิ์
"ปีติมหาการุญ" ปีแห่งความเมตตากรุณาที่องค์พระผู้เป็นเจ้า ได้สำแดงแก่เราอย่างเป็นรูปธรรมต่อชีวิตเรา
เราจึงร่วมใจกันเฉลิมฉลองปียิ่งใหญ่นี้ด้วยความชื่นชมยินดี ด้วยความรู้คุณในพระตรีเอกภาพ
ที่ได้นำความหวังและความรอดมาสู่เรามนุษย์ ผู้เป็นคนบาปทั้งหลาย
ประการที่สอง
สืบเนื่องมาจากความปลื้มปีตินี้ มิได้คงอยู่ในระดับพระศาสนจักรสากลเท่านั้น
แต่ความปลื้มปิตินี้ดำรงอยู่ในพระศาสนจักรท้องถิ่นด้วย โดยเฉพาะ
สังฆมณฑลจันทบุรี และเป็นพิเศษสำหรับสัตบุรุษวัดแม่พระประจักษ์ที่ลูร์ด
บางแสนแห่งนี้
ความปลื้มปีตินี้ได้ทวีเพิ่มมากขึ้น เมื่อทางสังฆมณฑลโดยผ่านการปกครอง
ดูแล และความเห็นชอบของพระคุณเจ้า ได้มีมติให้ดำเนินการสร้างวัดหลังใหม่ขึ้น เพื่อถวายเกียรติแด่พระตรีเอกภาพ และพระแม่มารีอาผู้เป็นองค์อุปถัมภ์ของเราคริสตชน
และนามชื่อวัดของเราด้วย
ชุมชนความเชื่อเล็ก
ๆ แห่งนี้ มีประวัติยาวนานมากว่า 33 ปี
ในปีคริสตศักราช
1967 คุณพ่ออรุณ ธรรมธาดา เจ้าอาวาสวัดชลบุรีในขณะนั้น เริ่มต้นเข้ามาดูแล
และใช้บังกาโลริมหาดบางแสน เป็นที่ประกอบพิธีมิสซา
ในปีคริสตศักราช
1968 สังฆมณฑลจันทบุรีได้ซื้อที่ดินจำนวน 8 ไร่ครึ่ง ติดรั้ววิทยาลัยวิชาการศึกษา
บางแสน (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยบูรพา)
จากนั้นในปีคริสตศักราช
1972 คุณพ่อวาณิช คุโรวาท ได้ก่อสร้างอาคาร 2 ชั้น ขึ้นในบริเวณที่ดินที่ได้ซื้อไว้
โดยชั้นบนใช้เป็นที่พักสำหรับนิสิตคาทอลิก ที่มาศึกษาที่มหาวิทยาลัย
ชั้นล่างของอาคารใช้เป็นสถานที่สำหรับประกอบพิธีมิสซา และใช้มาจนทุกวันนี้
ต่อมาในปีคริสตศักราช
1986 คุณพ่อสุดเจน ฝ่นเรือง เป็นผู้ดูแล ได้จัดฉลองวัด และใช้ชื่อวัดว่า
"วัดแม่พระประจักษ์ที่ลูร์ด" ขึ้นเป็นครั้งแรก
ต่อมาในปีคริสตศักราช
1989 สังฆมณฑลจันทบุรีได้ประกาศยกฐานะ วัดแม่พระประจักษ์ที่ลูร์ด
บางแสนแห่งนี้ ให้เป็นวัดอิสระ โดยคุณพ่อสุดเจน ฝ่นเรือง รองอธิการบ้านเณรเป็นเจ้าอาวาสองค์แรก
จวบจนปัจจุบัน
วัดแม่พระประจักษ์ที่ลูร์ด บางแสน ประกอบไปด้วยคริสตชนจำนวนกว่า
30 ครอบครัว ประมาณ 148 คน มีสภาอภิบาลวัดและกลุ่มกิจกรรมส่งเสริมศรัทธาต่าง
ๆ อาทิ กลุ่มส่งเสริมชีวิตครอบครัว กลุ่มคูร์ซิลโล กลุ่มเยาวชน
และกลุ่มเทิดมารี เป็นต้น
สำหรับโครงการสร้างวัดของชุมชนความเชื่อแห่งนี้ ได้เริ่มต้นขี้นในปีคริสตศักราช
1997 ซึ่งสืบเนื่องจากอาคารหลังปัจจุบันที่ใช้เป็นวัดนั้น สามารถบรรจุสัตบุรุษได้เพียง
70 กว่าคน เท่านั้น จึงไม่เพียงพอต่อจำนวนสัตบุรุษที่มาร่วมมิสซาในทุกวันอาทิตย์
ซึ่งมีมากกว่า 120 คน ประกอบกับในช่วงฤดูฝน มักจะมีน้ำท่วมขังบริเวณรอบ
ๆ วัด ทำให้ไม่สะดวกต่อการมาร่วมพิธีมิสซา
ทางคณะกรรมการสภาอภิบาลจึงนำเรื่องนี้มาปรึกษา
และได้ตัดสินใจที่จะนำเสนอโครงการสร้างวัดต่อสังฆมณฑล เพื่อดำเนินการก่อสร้างวัด
ที่ถาวรสง่างาม สมกับเป็นพระวิหารของพระเป็นเจ้า และเป็นวัดที่ให้บริการแก่ชุมชน
รวมถึงนักท่องเที่ยว และได้รับการอนุมัติเห็นชอบในเวลาต่อมา
โดยวัดหลังใหม่ที่จะสร้างขึ้นนี้
จะมีขนาดบรรจุสัตบุรุษได้ประมาณ 150 คน งบประมาณก่อสร้างทั้งสิ้น
7,000,000 บาท (เจ็ดล้านบาทถ้วน) และในส่วนของการสรรหางบประมาณสำหรับการสร้างวัดนั้น
สังฆมณฑลได้อนุมัติงบประมาณมาส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งได้มาจากการร่วมมือกันระดมกองทุน
ของคณะกรรมการสภาอภิบาล และสัตบุรุษชาวบางแสน ซึ่งก็ได้รับความอนุเคราะห์จากสัตบุรุษผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลาย
ขอพระแม่เจ้าโปรดตอบแทนน้ำใจอันงดงามของพี่น้องทุกท่าน ที่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างวัดถวายแด่พระแม่
และขอฝากโครงการนี้ในความคุ้มครองของพระแม่ มา ณ โอกาสนี้ด้วย
บัดนี้ได้เวลาอันเป็นมงคลฤกษ์แล้ว ขอกราบเรียนเชิญพระคุณเจ้า
ได้ประกอบพิธีเสกและวางศิลาฤกษ์วัดแม่พระประจักษ์ที่ลูร์ด บางแสน
ณ บัดนี้
ขอกราบเรียนเชิญครับ
|