วัดแม่พระเมืองลูร์ด
บางแสน หรือวัดบางแสน สังกัดสังฆมณฑลจันทบุรี
ตั้งอยู่เลขที่ 167 ถนนลงหาดบางแสน ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี
รหัสไปรษณีย์ 20130 โทรศัพท์ 0-3874-5106
ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 8 ไร่ครึ่ง ทิศเหนือ จรดถนนลงหาดบางแสน
(ตรงข้ามห้างแหลมทอง) ทิศตะวันออกและทิศใต้
จรดที่ดินเอกชน ทิศตะวันตกจรดมหาวิทยาลัยบูรพา
วัดบางแสนอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 90 กม.
จากถนนสุขุมวิท เลี้ยวขวาที่สามแยกบางแสน ไปตามถนนลงหาดบางแสน
ประมาณ 1 กม.เศษ
วัดบางแสนอยู่ห่างจากวัดชลบุรีประมาณ 11 กม. อยู่ห่างจากวัดศรีราชาประมาณ
13 กม.
และ อยู่ห่างจากชายหาดบางแสนประมาณ 1 กม.เศษ
ช่วงที่
1 การก่อตั้งชุมชน
ก่อน
ปี ค.ศ. 1967
(พ.ศ. 2510) บางแสน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชายทะเลที่มีหาดทรายสวยงามที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ
ที่สุด การคมนาคมยังไม่สะดวก จากกรุงเทพฯ เดินทางโดยรถยนต์มาตามถนนสุขุมวิท
(สายเก่า) ผ่านสมุทรปราการ คลองด่าน บางปะกง ชลบุรี
ถึงทางแยกบางแสน (ก่อนตลาดหนองมน) ระยะทางประมาณ 102
กม. ต้องใช้เวลาประมาณ 3 4 ชั่วโมง
จากถนนสุขุมวิท แยกลงหาดบางแสน เป็นถนนลาดยาง มีต้นมะพร้าวสองข้างทางเป็นแถวสวยงาม
ระยะทางประมาณ 3 กม. ก่อนถึงชายหาดมีวิทยาลัยวิชาการศึกษา
บางแสน ตั้งอยู่ทางซ้ายมือ เมื่อถึงชายหาด มีถนนคอนกรีตเลียบชายหาดจากทิศใต้ขึ้นไปทางทิศเหนือ
ผ่านทางแยกเข้าแหลมแท่นไปสู่เขาสามมุข และต่อไปอ่างศิลา
เลยไปออกถนนสุขุมวิทตรงประมาณ กม. 97
ริมถนนเลียบชายหาด
มีสถานบริการโรงแรมและบังกะโลที่มีชื่อเสียง 2 แห่ง
คือ ด้านทิศใต้ เป็นบาร์โกโก้นัท ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
และทางด้านทิศเหนือของชายหาด มีโรงแรมบางแสน (โรงแรม
อสท)เป็นขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ในย่านบางแสน อ่างศิลา หนองมน ปรากฏหลักฐานว่ามีคริสตชนจากที่อื่นมาอยู่อาศัยทำมาหากินอยู่บ้าง
ไม่มาก ที่พอจะสืบได้ คือ
1. ครอบครัวนายวิจิตร (ตรง) อานามนารถ (เสียชีวิตแล้ว)
อพยพมาจากจันทบุรี ทำอาชีพดูแลบังกะโลของบาร์โกโก้นัท
ปัจจุบันภรรยาและลูกบางคนยังอยู่ที่บางแสน
2. ครอบครัวนายจิต-นางประพิน ปานทอง เปิดร้านถ่ายรูปชื่ออัมรินทร์
ที่ตลาดหนองมน (บริเวณคิวรถหนองมน) ปัจจุบันย้ายไปอยู่ที่อื่นหมดแล้ว
3. ครอบครัวนายหวล-นางรำพึง เกตุพันธ์ ย้ายมาจากอำเภอบางเลน
จังหวัดนครปฐม ระยะแรกเช่าบ้านอยู่หลังวัดท้ายดอน อาชีพขายไก่ย่าง
ปัจจุบันทั้งครอบครัวและลูกๆ ยังอยู่ที่บางแสนเกือบทั้งหมด
4. มีบางครอบครัวที่ไม่สามารถสืบชื่อได้ เช่น จากกรุงเทพฯ
ศรีราชา หัวไผ่ พนัสนิคม ซึ่งมาอยู่ไม่นานแล้วจากไป
ปี ค.ศ. 1967 (พ.ศ. 2510) คุณพ่ออรุณ
(ซาอูล) ธรรมธาดา เจ้าอาวาสวัด ชลบุรี เริ่มเข้ามาดูแลคริสตชนในย่านบางแสน
หนองมน โดยมาทำมิสซาที่บ้านของบางครอบครัวในวันอาทิตย์
จึงถือว่าเป็นจุดกำเนิดของกลุ่มคริสตชนบางแสน
ปี ค.ศ. 1968 (พ.ศ. 2510) คุณพ่อประพล
ธรรมพิชัย ประสบอุบัติเหตุ ได้มาพักรักษาตัวที่วัดชลบุรีกับคุณพ่อซาอูล
คุณพ่อประพลจึงอาสามาดูแลกลุ่มคริสตชน บางแสน โดยเช่าบังกะโลหลังหนึ่งของบาร์โกโก้นัท
เพื่อเป็นที่ถวายบูชามิสซา โดยเสียค่าเช่าปีละประมาณ 7,000
บาท และได้ซิสเตอร์เซลิน ทรงสัตย์ จาก โรงเรียนเมรี่อิมมาคุเลตคอนแวนต์
มาช่วยสอนคำสอนแก่เด็กๆ
เนื่องจากค่าเช่าบังกะโลราคาค่อนข้างสูง จึงเกิดความคิดที่จะหาที่เพื่อสร้างวัดถาวร
คุณพ่อซาอูลจึงได้ติดต่อคุณเกื้อ สนิทนราธร ซึ่งมีความสันทัดในเรื่องซื้อขายที่ดิน
คุณเกื้อเสนอให้ซื้อที่ดิน 8 ไร่ครึ่ง ที่อยู่ติดรั้วของวิทยาลัยวิชาการศึกษา
บางแสน (มหาวิทยาลัยบูรพา ปัจจุบัน) ถึงแม้จะเป็นที่ลุ่มน้ำขัง
แต่อยู่ริมถนนใหญ่ ใกล้สถาบันอุดมศึกษา น่าจะเจริญมากในอนาคต
คุณพ่อซาอูล จึงตัดสินใจซื้อที่แปลงดังกล่าว โดยใช้เงินของวัดชลบุรี
ในราคาประมาณ 7 แสนบาท
ปี ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) คุณพ่อวาณิช
คุโรวาท มาเป็นเจ้าอาวาสวัดชลบุรี คุณพ่อประพล และซิสเตอร์เซลิน
ได้เสนอให้สร้างวัดในที่ดินที่ซื้อไว้ เพื่อใช้แทนบังกะโลที่ต้องเช่าราคาแพง
และคับแคบ ไม่พอกับจำนวนสัตบุรุษที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนวันหยุด
ปี ค.ศ. 1972 (พ.ศ. 2515) คุณพ่อวาณิช
ได้สร้างอาคารคอนกรีต 2 ชั้น บนที่ดินที่ซื้อไว้ที่บางแสน
ชั้นบนเป็นหอพักให้นักศึกษาเช่า ชั้นล่างใช้เป็นวัดจุคนได้ไม่เกิน
50 คน
คุณพ่อประพล ดูแลคริสตชนบางแสน นานถึง 8 ปี ก็ย้ายไปอยู่วัดพนัสนิคม
ซิสเตอร์เซลินก็ย้ายไปรับหน้าที่ที่อื่น ขณะนั้นคุณพ่อวิจิตร
ไตรภพ ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ที่ มศว บางแสน และมาพักอยู่ที่วัดชลบุรี
จึงช่วยมาถวายบูชามิสซาที่วัดบางแสนในวันอาทิตย์
หลังจากนั้น พระสงฆ์จากศรีราชา โดยเฉพาะจากบ้านเณร ก็ได้รับมอบหมายให้มาช่วยดูแลคริสตชนที่บางแสน
และถวายมิสซาวันอาทิตย์เรื่อยมา เช่น คุณพ่อเมธี วรรณชัยวงศ์
คุณพ่อเฉลิม กิจมงคล คุณพ่อประยูร นามวงศ์ จึงดูเหมือนว่าการดูแลคริสตชนวัดบางแสน
เป็นความรับผิดชอบของพระสงฆ์จากบ้านเณรศรีราชา ตั้งแต่ปี
ค.ศ. 1974 เป็นต้นมา
ปี ค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2518) คุณพ่อสนิท
วรศิลป์ มาเป็นเจ้าอาวาสวัดชลบุรี คุณพ่อวีระ ผังรักษ์
อธิการบ้านเณรศรีราชาและผู้จัดการโรงเรียนดาราสมุทร มารับผิดชอบดูแลวัดบางแสนด้วย
โดยมีคุณพ่อรุทธ์ ภานุพันธ์ คุณพ่อไพบูลย์ นัมคณิสรณ์
และคุณพ่อสมชัย พิทยาพงศ์พร มาช่วยเป็นครั้งคราว
ปี ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522) นิสิตคาทอลิกในมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
บางแสน (มศว. บางแสน) ได้ร่วมกันจัดตั้ง กลุ่มเทิดมารีย์
ขึ้นใน วันที่ 8 กันยายน มีคุณพ่อวีระ ผังรักษ์ เป็นจิตตาธิการ
ผศ. วิชัย บุญเจือ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา โดยใช้วัดบางแสนเป็นศูนย์จัดกิจกรรมทั้งของกลุ่มและของวัด
ทางกลุ่มได้จัดการฉลองการจัดตั้งกลุ่มในวันที่ 8 กันยายน
ทุกปี และมีการเรียกชื่อวัดน้อยบางแสนว่า วัดแม่พระบังเกิด
ปี ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) คุณพ่อทวี
อานามวัฒน์ ก็ได้รับมอบหมายให้มาดูแลวัดบางแสนแทนคุณพ่อวีระ
และเริ่มมีการพัฒนาบริเวณวัด ด้วยความร่วมมือร่วมแรงของนิสิตกลุ่มเทิดมารีย์
เริ่มมีการปลูกต้นไม้ ปรับปรุงบริเวณวัด
ปี ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527) คุณพ่อประสาน
พงศ์ศิริพัฒน์ รองอธิการบ้านเณร เป็นผู้มาดูแลวัดบางแสน
ปี ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) คุณพ่อสุดเจน
ฝ่นเรือง รองอธิการบ้านเณร มาเป็นผู้ดูแล และจัดให้มีการฉลองวัดเป็นครั้งแรก
เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 1986 โดยมีพระคุณเจ้าเทียนชัย สมานจิต
เป็นประธาน (พระคุณเจ้ามาเป็นประธานฉลองวัดทุกปี ไม่เคยเว้นเลย)
แต่เนื่องจากเป็นหน้าฝน ฝนตก น้ำท่วม ไม่สะดวก คุณพ่อจึงเสนอขอเปลี่ยนชื่อวัดเป็น
วัดแม่พระเมืองลูร์ด เพื่อจะได้ย้ายไปฉลองวัดเดือนกุมภาพันธ์
น้ำไม่ท่วม พระคุณเจ้าเทียนชัย ก็เห็นด้วย คุณพ่อจึงเริ่มพัฒนาวัดอย่างจริงจัง
มีการถมดินบางส่วน ปลูกต้นไม้
ปี ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530) ต่อเติมและปรับปรุงวัดครั้งที่
1 โดยทุบผนังด้านทิศตะวันตกเปิดเป็นหน้าวัด ต่อหลังคาออกมาให้ใช้ประโยชน์ได้อเนกประสงค์
สร้างศาลาแม่พระและอนุสาวรีย์แม่พระ จัดตั้งสภาอภิบาลวัดขึ้นเป็นครั้งแรก
นอกจากนี้ยังได้จัดให้มีพิธีกรรมต่างๆ ในวันฉลองสำคัญตามปฏิทิน
เช่น วันพระคริสตสมภพ พิธีกรรมในสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์
วันฉลองปัสกา และวันฉลองอื่นๆ ครบถ้วน เริ่มมีพิธีนพวารแม่พระนิจจานุเคราะห์
มีมิสซาวันศุกร์ต้นเดือน
ปี ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) สังฆมณฑลประกาศยกฐานะวัดบางแสนเป็นวัดสมบูรณ์
สามารถจัดพิธีกรรมและโปรดศีลศักดิ์สิทธิ์ได้ครบถ้วน ไม่ต้องขึ้นกับวัดชลบุรีอีกต่อไป
เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม โดยมีคุณพ่อสุดเจน ฝ่นเรือง เป็นเจ้าอาวาสองค์แรก
ปี ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) คุณพ่อทรงวุฒิ
ประทีปสุขจิต รองอธิการบ้านเณรศรีราชา ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดองค์ที่
2 มีการปรับปรุงด้านหน้าวัดให้กว้างขึ้น ดำเนินการถมดินบริเวณพื้นที่วัดทั้งหมด
ปี ค.ศ.1992 (พ.ศ.2535) จัดฉลอง 25 ปีกลุ่มคริสตชนบางแสนขึ้น
พร้อมทั้งจัดพิมพ์หนังสือที่ระลึก
(ขอเชิญติดตามบทความเรื่อง
25 ปี ของกลุ่มคริสตชน
บางแสน ได้ที่นี่)
ในปีนี้เองที่ริเริ่มเชิญพระกุมารไปอวยพรตามบ้านในช่วงเทศกาลคริสต์มาส
ซึ่งเป็นประเพณีที่ทำเรื่อยมาจนปัจจุบัน
ปี
ค.ศ. 1993 (พ.ศ.2536) คุณพ่อชาติชาย เวฬุรัตนกูล
รองอธิการบ้านเณรศรีราชา ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดองค์ที่
3 ได้มีการต่อเติมวัดด้านหน้าอีกเป็นครั้งที่สอง ยกพื้นวัดให้พ้นน้ำท่วม
สร้างห้องน้ำใหม่ สร้างกำแพงบริเวณด้านหลัง ด้านข้าง และรั้วด้านหน้า
เริ่มประเพณีสวดสายประคำตลอดเดือนตุลาคม (เดือนแม่พระลูกประคำ)
จัดทำสารวัดยุคคอมพิวเตอร์
ช่วงที่
2 การพัฒนา
ปี ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) คุณพ่อประวิช
หอมวิไลย รองอธิการบ้านเณรพระหฤทัย ศรีราชา ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่
4 มีการวางแผนและทำโครงการสร้างวัดใหม่เสนอต่อสังฆมณฑล
จนได้รับอนุมัติในหลักการ เมื่อวันที่ 8 กันยายน 1997
จากนั้นได้มีการออกแบบวัดใหม่ และรณรงค์หาเงินทุนสร้างวัด
ปี ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) เปิดเว็บไซต์วัดบางแสนขึ้นเมื่อวันที่
15 สิงหาคม 1999 เป็นเว็บไซต์วัดแรกของสังฆมณฑลจันทบุรี
วันที่ 24 ธันวาคม 1999 จัดให้มีพิธีเปิดปีศักดิ์สิทธิ์อย่างสง่า
ปี ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) จัดให้มีพิธีวางศิลาฤกษ์วัดใหม่
โดยพระคุณเจ้าเทียนชัย สมานจิต เป็นประธาน เมื่อวันที่
13 กุมภาพันธ์ 2000
เดือนพฤษภาคม 2000 คุณพ่อประสาน พงศ์ศิริพัฒน์ ประจำสำนักงานศาลสังฆมณฑล
ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 5 งานหลักคือ การจัดทำผังแม่บทและออกแบบวัดใหม่
จัดหาทุนเพิ่มเติมจนกระทั่งได้รับอนุมัติแบบวัดจากสังฆมณฑล
ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) วันที่ 18 ตุลาคม
ลงมือตอกเข็มและก่อสร้างวัดใหม่ คุณพ่อประสานต้องควบคุมดูแลการก่อสร้าง
การตกแต่งภายใน และภายนอกจนสำเร็จสมบูรณ์ ดูเด่น สวยงาม
รูปแบบทันสมัย ไม่ซ้ำกับวัดอื่นๆ ทั่วไป
วันที่ 3 ธันวาคม 2001 เริ่มก่อตั้งกลุ่มเซอร์ร่าบางแสน
เป็นกลุ่มทดลอง โดยมีคุณพ่อประสาน พงศ์ศิริพัฒน์ เป็นจิตตาธิการคนแรก
ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) การก่อสร้างการก่อสร้างวัดใหม่เสร็จ
วันที่ 8 ธันวาคม 2002 มีพิธีเสกพระแท่น และทำพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณเป็นปฐมฤกษ์ในวัดสร้างใหม่
ปี ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) วันที่ 15
กุมภาพันธ์ จัดพิธีฉลองเปิดและเสกวัดใหม่ โดยพระคุณเจ้าเทียนชัย
สมานจิต ท่ามกลางพระสงฆ์ สัตบุรุษมากมายทั่วประเทศ และแขกผู้มีเกียรติจากฝ่ายบ้านเมือง
ปี ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) พระสงฆ์คณะเยซูอิต
ได้เข้ามาทำงานในสังฆมณฑลจันทบุรี โดยได้รับมอบหมายให้ปกครองอภิบาลวัดบางแสน
ดูแลรับผิดชอบหน่วยงานนิสิตนักศึกษาของสังฆมณฑลด้วย ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่
15 กุมภาพันธ์ 2004 โดยมีคุณพ่อมหาร์ โซโน โปรโบ เอส.เจ.
เป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 6 และคุณพ่อสายชล คันยุไล เอส.เจ.
เป็นผู้ช่วย
วันที่ 6 มิถุนายน 2004 กลุ่มเซอร์ร่าบางแสน จัดพิธีปฏิญาณตนของสมาชิก
จำนวน 36 คน โดยมีพระคุณเจ้าเทียนชัย สมานจิต เป็นประธาน
เริ่มก่อตั้งกลุ่มฝึกปฏิบัติจิตขึ้นที่วัดบางแสนในปี
ค.ศ. 2004 จัดฝึกปฏิบัติเป็นครั้งแรกที่เขาใหญ่ วันที่
27 - 29 สิงหาคม 2004
ปี ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) วันที่ 1 มิถุนายน
คุณพ่อมหาร์ โซโน โปรโบ ไปรับหน้าที่ดูแลศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาคาทอลิกของคณะที่บ้านเซเวียร์
คุณพ่อสายชล คันยุไล ได้รับหน้าที่เจ้าอาวาสองค์ที่ 7
โดยมีคุณพ่อเบด้า ยาซ์เซาส์ เอส.เจ. เป็นผู้ช่วย
ปี ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) เดือนมีนาคม
ก่อตั้งกลุ่มพลมารี เปรสิเดียมแม่พระเมืองลูร์ด ที่วัดบางแสน
วันที่ 13 พฤษภาคม 2006 คณะเยซูอิต จัดงานพิธีบวชคุณพ่อพิเชฐ
แสงเทียน พระสงฆ์ของคณะที่วัดบางแสน เป็นครั้งแรกของวัด
โดยพระคุณเจ้าเทียนชัย สมานจิต
เดือนสิงหาคม เริ่มก่อตั้งกลุ่มผู้สูงอายุ วัดบางแสน
ปี ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) วันที่ 27
พฤษภาคม พี่น้องคริสเตียนจากคริสตจักรแห่งชีวิต บางแสน
มาเยี่ยมวัดบางแสน และร่วมพิธีมิสซาด้วยกันเป็นครั้งแรก
วันที่ 8 เมษายน ฝ่ายศาสนสัมพันธ์นำสมาชิกวัดบางแสน
ไปเยี่ยมพี่น้องคริสตจักรแห่งชีวิต บางแสน เป็นครั้งแรก
ในโอกาสวันอีสเตอร์ และมีการภาวนาอธิษฐานร่วมกัน
วันที่ 4 6 พฤษภาคม 2007 กลุ่มเซอร์ร่าบางแสน ร่วมกับกลุ่มเซอร์ร่าจันทบุรี
เป็นเจ้าภาพจัดงานวันครอบครัวเซอร์ร่า ปี 2007 และสภาเซอร์ร่าแห่งประเทศไทย
จัดพิธีปฏิญาณตนของประธานสภาเซอร์ร่า ประธานเขต และประธานกลุ่ม
ปี 2007 -2008 ที่วัดบางแสน
วันที่ 1 ธันวาคม 2007 คุณพ่อเบด้า ยาซ์เซาส์ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่
8 เมื่อคุณพ่อสายชล ต้องไปรับการอบรมศึกษาเพิ่มเติมต่อที่ประเทศออสเตรเลีย
แต่ในช่วงเตรียมตัว ให้ปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยไปก่อน
ปี ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) วันที่ 24
พฤษภาคม คณะเยซูอิตจัดพิธีปฏิญาณตนครั้งสุดท้ายของคุณพ่อเบด้า
ยาซ์เซาส์ เอส.เจ. ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จัดที่วัดบางแสน
25
ปี ของกลุ่มคริสตชน บางแสน
โสภี สุขสำราญ รวบรวม-เรียบเรียง
|